วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2563

รอง ผบ.ตร. แถลงข่าว จับกุมขบวนการค้ายาเสพติด 10 คดี ยาบ้ากว่า 12 ล้านเม็ด






วันอังคาร ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2563 เวลา 11.00 น. ณ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด : พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.(ปป), พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวกาาจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ

จำนวน 10 คดี ผู้ต้องหา 23 คน

ยาบ้า 12,888,000 เม็ด, ไอซ์ 20 กิโลกรัม, กัญชา 605 กิโลกรัม,

เคตามีน 10 กิโลกรัม, เฮโรอีน 2 กิโลกรัม และฝิ่นดิบ จำนวน 4 กิโลกรัม

 คดีที่ 1

เมื่อวันที่ 24 พ.ย.63 เวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส., เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.  ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหายาเสพติด รายละเอียด ดังนี้

ผู้ต้องหา

1. นายเฉลิมพลฯ อายุ 39 ปี ที่อยู่ 142 ม.3 ต/อ.ภูซาง จว.พะเยา (ผู้ต้องหาที่ 1)

2. นางเพียรทองฯ อายุ 45 ปี ที่อยู่ 142 ม.3 ต/อ.ภูซาง จว.พะเยา (ภรรยานายเฉลิมพลฯ)(ผู้ต้องหาที่ 2)

3. นายยุรนันท์ ฯ อายุ 25 ปี ที่อยู่ 201/1 ม.1 ต.สาลี อ.บางปลาม้า จว.สุพรรณบุรี (ผู้ต้องหาที่ 3)

4. นางสาว สุภาภรณ์ ฯ อายุ 26 ปี ที่อยู่ 9/605 ม.10 ต.ในคลองปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ ภรรยา (ภรรยาของนายยุรนันท์) (ผู้ต้องหาที่ 4)

พร้อมของกลาง

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวนประมาณ 288,000 เม็ด

2. รถยนต์พ่วง ยี่ห้อ ISUZU รุ่น FXZ จำนวน 1 คัน

3. รถยนต์กระบะ ตู้ทึบ จำนวน 1 คัน

4. อาวุธปืนสั้น จำนวน 1 กระบอก

5. ลูกกระสุนปืนขนาด 7.65 มม. จำนวน 2 นัด

6. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง          

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกัน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต”

สถานที่เกิดเหตุและจับกุม บริเวณด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ อ.เด่นชัย จว.แพร่ และบริเวณริมถนนสายเอเชียหมายเลข 32 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จว.พระนครศรีอยุธยา โดยต่อเนื่องกัน

พฤติการณ์แห่งคดี

เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนและติดตามกลุ่มบุคคล มีภูมิลำเนาอยู่ จว.พะเยา นำรถยนต์บรรทุกจากต่างจังหวัดขึ้นมาลำเลียงยาเสพติดจาก ต.จันจว้าใต้ อ.แม่จัน จว.เชียงราย ลงไปยังภาคกลาง จนกระทั่ง วันที่ 24 พ.ย.63 สามารถจับกุม ผู้ต้องหาที่ 1 และ ที่ 2 ได้ที่บริเวณด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ อ.เด่นชัย จว.แพร่ พร้อมกลางยาบ้า จำนวน 288,000 เม็ด ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในกระสอบปุ๋ย และสามารถจับกุม ผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 ได้ที่บริเวณริมถนนสายเอเซีย หมายเลข 32 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จว.พระนครศรีอยุธยา จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ตามกฎหมายเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป

คดีที่ 2

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 เวลาประมาณ 12.50-13.20 น. เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส., บก.ปส.3 บช.ปส. และสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหายาเสพติด รายละเอียด ดังนี้ ผู้ต้องหา

1. นายวันชัย ฯ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110 ม.1 ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม จว.นครพนม (ผู้ต้องหาที่ 1)

2. นายวิทยา ฯ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.1 ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม จว.นครพนม (ผู้ต้องหาที่ 2)

3. นายสันติสุข ฯ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ม.1 ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม จว.นครพนม (ผู้ต้องหาที่ 3)

4. นายอิทธิพล ฯ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180 ม.5 ต.พยอม อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา (ผู้ต้องหาที่ 4)

5. นายวีรยุทธ ฯ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.3 ต.หนองยาว อ.เมืองสระบุรี จว.สระบุรี (ผู้ต้องหาที่ 5) พร้อมของกลาง

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวนประมาณ 7,200,000 เม็ด

2. รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ ISUZU รุ่น FORWARD 200PS สีขาว จำนวน 1 คัน

3. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ MITSUBISHI รุ่น TRITON สีส้ม จำนวน 1 คัน

4. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น Hilux Revo สีขาว จำนวน 1 คัน

5. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง          

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกัน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต”

สถานที่เกิดเหตุและจับกุม บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.พหลโยธินวังน้อย ม.3 ต.ลำเตาเสา อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา พฤติการณ์แห่งคดี

เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนและติดตามกลุ่มบุคคลประกอบด้วย นายวันชัย ฯ, นายวิทยา, นายสันติสุข ฯ กับพวก มีภูมิลำเนาอยู่ จว.นครพนม มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องเป็นญาติกัน มีพฤติการณ์ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากกลุ่มผู้ว่าจ้าง จากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไปส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง จนกระทั่ง วันที่ 29 พ.ย.63 สามารถจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.พหลโยธินวังน้อย ม.3 ต.ลำเตาเสา อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ตามกฎหมายเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ต่อไป

คดีที่ 3

ด้วยเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 เวลาประมาณ 01.00 น. – 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปส.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจพาหนะชุมพร, บก.ขส., ภ.จว.ตรัง, กก.9 บก.รน., ศป.ปส.ทรภ.2, กอ.รมน.ภาค 4 สน. และเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ได้จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ รายสำคัญ จำนวน 4 คน ปรากฏรายละเอียด ดังนี้

ผู้ต้องหา

1. นายอดิศร หรือโอม ฯ อายุ 30 ปี

2. นายอรรถพล หรือโม ฯ อายุ 30 ปี

3. นายลูกเล็ก หรือตัน ฯ อายุ 27 ปี

4. นายชัยรัตน์ หรือแจ็ค ฯ อายุ 31 ปี

พร้อมของกลาง

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 5,00,000 เม็ด

2. รถยนต์บรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ จำนวน 1 คัน

3. รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า จำนวน 1 คัน

4. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน จำนวน 1 คัน

5. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง

ทรัพย์สินที่ยึดไว้ตรวจสอบ

1. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส จำนวน 1 คัน ราคาประมาณ  300,000 บาท

2. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ BMW จำนวน 1 คัน ราคาประมาณ 700,000 บาท

3. รถยนต์กระบะแค็ป ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ จำนวน 1 คัน ราคาประมาณ 500,000 บาท

รวมราคาทรัพย์สินประมาณ 1,500,000 บาท

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สถานที่จับกุม บริเวณปั๊มน้ำมันบางจากสาขาวังมะนาว เลขที่ 3/1 ม.2  ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จว.เพชรบุรี ต่อเนื่องลานดินริมถนนเพชรเกษม ระหว่าง กม.ที่ 269-270 ม.9 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จว.นครศรีธรรมราช

พฤติการณ์แห่งคดี สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดทางภาคเหนือจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ทางภาคใต้ โดยใช้รถบรรทุกสิบล้อ ทะเบียนเชียงใหม่ เป็นพาหนะซุกซ่อนยาเสพติด จึงได้สืบสวน ติดตาม ค้นหารถบรรทุกคันดังกล่าวตามเส้นทางถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ตั้งแต่ จว.เพชรบุรี จนกระทั่งพบรถบรรทุกคันดังกล่าวจอดอยู่ในปั๊มน้ำมันแถววังมะนาว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการตรวจสอบ พบผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ขับขี่ ตรวจค้นตัวพบยาบ้า 12 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างขวา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นกระบะท้ายรถบรรทุก ผลการตรวจค้นพบยาบ้า  จำนวน 25 กระสอบ (5,000,000 เม็ด) จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 จากนั้นได้ขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาที่ 2–4 ซึ่งใช้รถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน เป็นพาหนะ เดินทางมารับยาบ้าในพื้นที่ จว.นครศรีธรรมราช ส่วนนายธีระพงศ์ หรือเอ็ม ได้ไหวตัวหลบหนีการจับกุมไปได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสี่คนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และจักได้ให้ พนักงานสอบสวนดำเนินการออกหมายจับ นายธีรพงษ์ฯ แล้วทำการสืบสวนขยายผลเครือข่ายและบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 4

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส., ศุลกากร, และ ศรภ.ทำการตรวจยึดยาเสพติด

พร้อมของกลาง

ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวนประมาณ 8 กิโลกรัม

โดยกล่าวหาว่า “พยายามส่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”  

สถานที่เกิดเหตุ/ตรวจยึด

บริษัทรับส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง ศูนย์บริการบางนา ต.บางโฉลง อ.บางพลี จว.สมุทรปราการ

พฤติการณ์แห่งคดี ในคดีนี้ เจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจยึดได้สืบสวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางพัสดุภัณฑ์ พบพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศต้องสงสัยซุกซ่อนยาเสพติด ปลายทางประเทศนิวซีแลนด์ จึงร่วมกันตรวจสอบภายในกล่องพัสดุภัณฑ์ดังกล่าว พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวนประมาณ 8 กิโลกรัม ซุกซ่อนภายในเครื่องฟอกอากาศ จึงทำการตรวจยึดเป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 5

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปส.3, บก.ขส.ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส., เจ้าหน้าที่ทหาร และตรวจคนเข้าเมือง ตามโครงการความร่วมมือ AITF ทำการสืบสวนจับกุม ผู้ต้องหา

1. นายคาย ฯ อายุ 30  ปี  ที่อยู่ 125 หมู่ 7 ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จว.พะเยา

พร้อมของกลาง จำนวน 2 รายการ

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวนประมาณ 4 กิโลกรัม

2. โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 1 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “พยายามนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สถานที่เกิดเหตุ/ตรวจยึด

จับกุมที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จว.สมุทรปราการ

พฤติการณ์แห่งคดี ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดได้ร่วมกันสืบสวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ตามโครงการความร่วมมือ AITF ได้ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยอยู่ภายในกระเป๋าสัมภาระของนายคาย ฯ แรงงานไทยซึ่งกำลังจะเดินทางไปประเทศอิสราเอล โดยสายการบินระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง    จึงร่วมกันตรวจสอบภายในกระเป๋าสัมภาระ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวนประมาณ 4 กิโลกรัม ซุกซ่อนในซองเครื่องดื่มเกลือแร่ และกล่องครีมเทียม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

คดีที่ 6

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปส.3, บก.ขส.ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส., เจ้าหน้าที่ทหาร ทำการตรวจยึดวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จำนวนประมาณ 10 กิโลกรัม

โดยกล่าวหาว่า “พยายามส่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ออกนอกราชอาณาจักรเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต” สถานที่เกิดเหตุ/ตรวจยึด

ตรวจยึดที่บริษัทรับส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง สาขาบางปะอิน อ.บางปะอิน จว.พระนครศรีอยุธยา

พฤติการณ์แห่งคดี ในคดีนี้ เจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจยึดได้สืบสวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางพัสดุภัณฑ์ พบพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศต้องสงสัยซุกซ่อนยาเสพติด ปลายทางสหรัฐอเมริกา จึงร่วมกันตรวจสอบภายในกล่องพัสดุดังกล่าวพบวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จำนวนประมาณ 10 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในถุงชาสำเร็จรูป  จากการสืบสวนขยายผลพบว่าพัสดุดังกล่าวฝากส่งมาจากบริษัทขนส่งหนึ่งใน อ.แม่สอด จว.ตาก และส่งมาจากบริษัทขนส่งในประเทศพม่า และเกี่ยวข้องกับกรณีเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 เจ้าหน้าที่ตามโครงการ AITF ตรวจยึดพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศซุกซ่อนเคตามีน จำนวน 29 กิโลกรัม ขณะจะส่งไปนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องในการส่งพัสดุ จำนวน 2 คน โดย 1 ใน 2 ได้เดินทางกลับเข้ามาประเทศไทย เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดจึงทำการจับกุมพร้อมเคตามีนอีก จำนวน 10 กิโลกรัม ขณะเตรียมจะลักลอบลำเลียงออกไปประเทศกัมพูชา จึงได้ทำการตรวจยึดนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 7

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2563 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปส.3, บก.ขส.ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส., ศุลกากร และ ศรภ. ตามโครงการความร่วมมือ AITF ร่วมกันสืบสวนจับกุม ผู้ต้องหา

1. นายนิวัฒน์ ฯ อายุ 34 ปี ที่อยู่ 73 หมู่ที่ 1 ต.ดอนมะนาว อ.สองพี่น้อง จว.สุพรรณบุรี

พร้อมของกลาง จำนวน 2 รายการ

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวนประมาณ 8 กิโลกรัม

2. โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 1 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายโดยไม่ผิดกฎหมาย”

สถานที่เกิดเหตุ/ตรวจยึด

บริเวณหน้าคอนโดมิเนียมบริเวณ ซอยอารีย์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์แห่งคดี ในคดีนี้ สืบเนื่องเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันตรวจยึดพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศปลายทางนิวซีแลนด์ ซุกซ่อนยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 8 กิโลกรัม ในเครื่องฟอกอากาศ  จากการสืบสวนขยายผลทราบว่ากลุ่มเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการส่งพัสดุในครั้งนี้เป็นชาวเวียดนาม มีพฤติการณ์เช่าคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพมหานครไว้เพื่อพักอาศัยขณะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและเชื่อว่าไว้เป็นที่พักรอการกระจายยาเสพติดด้วย  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ติดตามพฤติการณ์มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในวันเกิดเหตุ สืบสวนทราบว่านายนิวัฒน์  ฯ เดินทางมาที่ห้องพักที่ชาวเวียดนามเช่าไว้เพื่อขอรับทรัพย์สินของผู้เช่าซึ่งอยู่ภายในห้องพัก  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวขอตัวขอตรวจค้น พบเครื่องฟอกอากาศชนิดเดียวกับที่ตรวจยึดไว้เมื่อ 24 พ.ย.63 เมื่อตรวจสอบภายในเครื่องฟอกอากาศทั้ง 4 เครื่อง พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 8 กิโลกรัม จึงจับกุมนายนิวัฒน์  ใจตรง และนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 8

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2563 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.2 บก.ปส.3, บก.ขส.ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.และ เจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันสืบสวนจับกุม ผู้ต้องหา

1. นายวัฒนา ไอ่สอ อายุ 22 ปี ที่อยู่ 63 หมู่8 ต. ห้วยชมภู อ.เมือง จว.เชียงราย    

พร้อมของกลาง จำนวน 4 รายการ

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 400,000 เม็ด

2. ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่น) จำนวนประมาณ 4 กิโลกรัม

3. รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน

4. โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 1 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่น) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สถานที่เกิดเหตุ/ตรวจยึด

บริเวณริมถนนหน้าหมู่บ้านหนองผักเฮือก หมู่ 10 ต.จอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว จว.เชียงราย ต่อเนื่องบริเวณริมถนนหน้าหมู่บ้านหมอกหม้อ หมู่ 9 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จว.เชียงราย

พฤติการณ์แห่งคดี  ก่อนเกิดเหตุ  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบสวนพบว่ากลุ่มเครือข่ายนายวัฒนา หรือ ชาย ฯ จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนเข้าพื้นที่ชั้นใน โดยใช้รถยนต์ทะเบียน กฉ 8296 พะเยา, ทะเบียน ฉ 6337 เชียงราย และทะเบียน ผข 9597 เชียงราย จึงได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์เรื่อยมา จนกระทั่งใน   วันเกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะทั้ง 3 คัน ขับตามกันมาตามเส้นทาง ถนนเด่นห้า-ดงมะดะ ลักษณะรถนำและรถคุ้มกัน และเข้าไปจอดพักที่ปั้มน้ำมันเด่นห้าปิโตรเลียม ถนนเด่นห้า-ดงมะดะ ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขอตรวจค้น แต่รถยนต์ทั้งหมดได้พยายามขับหลบหนี  โดยรถยนต์กระบะ ทะเบียน ผข 9597 เชียงราย ได้ขับเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมและเกิดอุบัติเหตุพุ่งชนรั้วบ้านชาวบ้าน และคนขับรถยนต์หลบหนีไปได้ จากการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 400,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่น) จำนวนประมาณ 4 กิโลกรัม วางอยู่บริเวณเบาะที่นั่งภายในรถยนต์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถสกัดจับรถยนต์กระบะ ทะเบียน กฉ 8296 พะเยา และจับกุมนายวัฒนา ฯ นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 9

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปส.3, บก.ขส.ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส., ศุลกากร และ ศรภ. ตามโครงการความร่วมมือ AITF ร่วมกันตรวจยึดยาเสพติด ดังนี้ พร้อมของกลาง

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวนประมาณ 2 กิโลกรัม

2. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวนประมาณ 500 กรัม

โดยกล่าวหาว่า “พยายามส่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีนและไอซ์) ออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีนและไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สถานที่เกิดเหตุ/ตรวจยึด

ศูนย์กระจายสินค้าบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง สาขาบางนา

พฤติการณ์แห่งคดี ในคดีนี้ เจ้าพนักงานตำรวจชุดตรวจยึดได้สืบสวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทาง   พัสดุภัณฑ์ พบพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศต้องสงสัยซุกซ่อนยาเสพติด ปลายทางประเทศออสเตรเลีย จึงร่วมกันตรวจสอบภายในกล่องพัสดุดังกล่าวพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวนประมาณ 2 กิโลกรัม และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวนประมาณ 500 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในซองขนมขบเคี้ยว ประเภทช็อกโกแลตและคุกกี้ จึงได้ทำการตรวจยึดนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 10

ด้วยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2563 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 ร่วมกับ บก.ขส. บช.ปส.และเจ้าหน้าที่ ปป.3 สปป.สำนักงาน ป.ป.ส. ได้จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ รายสำคัญ ปรากฏรายละเอียด ดังนี้ ผู้ต้องหา

1.นายวันชัย ฯ อายุ 33 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่  120/12 หมู่ 4 ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย จว.สุโขทัย

2.นายธีรพงษ์  ฯ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/46 ซ.อาจณรงค์ 1 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

3.นายวรวิทย์ ฯ  อายุ 31 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 810 หมู่ 1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จว.สมุทรปราการ

4.นายสมพร ฯ อายุ 32 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 4148 หมู่ 3 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จว.สมุทรปราการ

5.นายปิยะพงษ์ ฯ อายุ 26 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 267 หมู่ 9 ต.โคกมั่งงอย อ.คอนสวรรค์ จว.ชัยภูมิ

6.นายสรพงษ์ ฯ  อายุ 35 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 93/1 ตรอกโรงพักศาลาแดง แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

7.นายกฤษเทพ ฯ อายุ 27 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 15 ซ.ศาลเจ้าหนองจอก อ.ท่าใหม่ จว.จันทบุรี พร้อมของกลาง

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) จำนวนประมาณ 605 กก.

2. รถยนต์ จำนวน 4 คัน

3. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า  “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” สถานที่เกิดเหตุ/จับกุม

โรงแรมแกรนด์เพลส รีสอร์ท เลขที่ 568/2 หมู่.2 ซ.โพธิ์สว่าง ต.หมากแข้ง อ.เมือง จว.อุดรธานี  

พฤติการณ์แห่งคดี  พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบสวนทราบว่า เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จะทำการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าพื้นที่ตอนใน โดยใช้ยานพาหนะเป็นรถยนต์ 4 คัน คันหนึ่งเป็นรถขนลำเลียงยาเสพติด อีก 3 คันเป็นรถนำและคอยคุ้มกัน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและร่วมกันเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางในพื้นที่ จ.อุดรธานี และใกล้เคียง กระทั่งในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบรถยนต์เป้าหมาย ขับมาในบริเวณที่เกิดเหตุโรงแรมแกรนด์เพลสรีสอร์ท เลขที่ 568/2 ม.2 ซ.โพธิ์สว่าง ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงเข้าทำการตรวจสอบรถยนต์เป้าหมายทั้งหมด และตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภท 5(กัญชา) จำนวน 605 กก.อยู่ในรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน 2ฒย-8380 กรุงเทพมหานคร ที่มีนายวันชัย ฯ ขับขี่ จึงจับกุมนายวันชัยฯ กับพวกรวม 7 คน พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสอบ บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย(สภท.56 ปี)

#หนังสือพิมพ์ประชาไทออนไลน์

#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน

#T.Newsman007Online

#เอกชัย//ข่าวเป็นข่าว//รายงานภ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บุรีรัมย์ – กกล.สุรนารี โดย ผบ.ฉก.ทพ.26 เดินเท้าลงพื้นที่มอบแสงสว่างแห่งความหวังให้ผู้ยากไร้ ตาม “โครงการสานสายใยรักพราน 26” ในพื้นที่ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สื่อลงพื้นที่ข่าวรายงานว่า                                พันเอก เกียรติศัก...