วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2564

รอง ผบ.ตร.แถลงข่าว สส.2 บก.สส.บช.น. จับกุมขบวนการ ลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือเข้าภาคกลาง และกรุงเทพฯ โดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะ









วันอังคารที่ 12 ม.ค.2564 เวลา 11.00น. พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น, พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย, พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร, พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน, พล.ต.ต.สําราญ นวลมา รอง ผบช.น., พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ตํารวจ กองกํากับการสืบสวน 2 จับกุมขบวนการ ลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ เข้า ภาคกลาง และกรุงเทพฯ โดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะ ซึ่งได้มีการขยายผลทราบว่ามีกลุ่มกําแพงเพชรลักลอบลําเลียงยาเสพติดจากทางภาคเหนือ มาส่งให้กับลูกค้าภาคกลางและกรุงเทพมหานคร โดยใช้รถยนต์ จนกระทั่งวันที่ 10 ม.ค.63 เจ้าหน้าที่ตํารวจ ได้จับกุม นายจํารัสฯ พร้อมพวกรวม 4 คน บริเวณลานจอดรถภายในปั้มน้ํามัน ปตท.สลกบาตรบริการ ถนนพหลโยธิน (หมายเลข 1) อําเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกําแพงเพชร พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1(ไอซ์) จํานวนประมาณ 30 กิโลกรัม, วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2(คีตามีน) จํานวนประมาณ 15 กิโลกรัม, รถยนต์ มิตซูบิชิ ไทรตัน, รถยนต์ อีซูซุ, โทรศัพท์มือถือจํานวน 5 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ไอซ์) ไว้ในความ ครอบครองเพื่อจําหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2(คีตามีน) เกินกว่าที่กฎหมายกาหนดโดยไม่ได้อนุญาต”  จากการสอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ ลำเลียงยาเสพติดทั้งหมด จากภาคเหนือมา กระจายขายให้ผู้ค้าและผู้เสพรายย่อยในพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้เคยทำมาแล้วหลายครั้ง


จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่าไม่พบประวัติการกระทําความผิด จึงได้นําส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. เปิดเผยหลังการแถลงข่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาด ‘ยาเคนมผง’ ซึ่งทำให้ผู้เสพถึงกับเสียชีวิต ล่าสุด พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค 1 ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนติดตามผู้จับ กลุ่มผู้ค้า มาดำเนินคดีให้ได้ พร้อมสาวไปให้ถึงเครือข่ายรายใหญ่ ให้ได้โดยเร็วที่สุด

       

ด้าน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.   กล่าวว่า ‘ยาเคนมผง’ มีส่วนผสมหลักคือเคตามีน  ส่วนตัวยาอื่นๆนั้น ยังไม่แน่ชัด ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ส่วนสาเหตุ ที่ผสมยาตัวอื่นนั้น คาดว่ามาจาก 2 ประเด็น คือ ต้องการลดต้นทุนและทำให้ยาออกฤทธิ์แรงขึ้น ส่วนการผสมยานั้นในแต่ละรายไม่เหมือนกัน ซึ่งจากการตรวจสอบตัวยาในเบื้องต้น พบว่า บางตัวผสมยาไอซ์ /บางตัวมีการผสม RC เพลม ซึ่งทำให้นอนหลับ

      

สำหรับผลการพิสูจน์ ชันสูตรศพสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากระบบหัวใจล้มเหลว แต่ตัวยาชนิดใดทำให้เสียชีวิตยังต้องรอผลตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากยาเคนมผงแล้ว 7 ราย ประกอบกับเมื่อวาน (11 ม.ค.) มีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร 5 ศพ และ สน.สุทธิสารอีก 1 ศพ รวม 6 ศพและล่าสุดวันนี้ มีผู้เสพในพื้นที่ สน. วัดพระยาไกรที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 รายยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ต้องดูแลอาการอย่างใกล้ชิด อีก 1 ราย

     

ส่วนที่หลายคนสงสัยว่ายาเคนมผงมีการผสมตัวยาอื่นๆมาจากประเทศ​ต้นทาง หรือผสมภายในประเทศ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลระบุว่า ยังไม่สามารถตอบได้ต้องรอ ผลการสืบสวนสอบสวนและติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาให้ได้เสียก่อน ซึ่งขณะนี้ ตำรวจสามารถสืบสวนจนรู้ชื่อ ผู้ค้ำแล้ว คาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้บางส่วนภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ 

#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย(สภท.56 ปี)

#หนังสือพิมพ์ประชาไทออนไลน์

#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน

#T.Newsman007Online

#ข่าวเป็นข่าวออนไลน์//เอกขัย//รายงาน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บุรีรัมย์ – กกล.สุรนารี โดย ผบ.ฉก.ทพ.26 เดินเท้าลงพื้นที่มอบแสงสว่างแห่งความหวังให้ผู้ยากไร้ ตาม “โครงการสานสายใยรักพราน 26” ในพื้นที่ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สื่อลงพื้นที่ข่าวรายงานว่า                                พันเอก เกียรติศัก...