วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2564

“บิ๊กแซ็ก ผบช.ภ.1” แถลงข่าวปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นระดมกวาดล้างยาเสพติด กำชับกวาดล้าง “เคนมผง” ให้สิ้นซาก ภ.1











ตามที่นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายการดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้ทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เป็นรูปธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกมนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจโทชินภัทร สารสิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยเร่งรัดจับกุม ขยายผล ยึดอายัดทรัพย์สิน เครือข่ายยาเสพติด ให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล


วันอังคารที่ 19 ม.ค.2564 เวลา 10.00 น. พลตำรวจโทอำพล  บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วย พลตำรวจตรีสุภธีร์  บุญครอง  รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1  พลตำรวจตรีชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พลตำรวจตรีไพศาล  วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พลตำรวจตรีชยุต มารยาทตร์  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พลตำรวจตรีวรณัฏฐ์ ผันผ่อน  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท พลตำรวจตรีชยานนท์ มีสติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี  พลตำรวจตรีพลฑิต ไชยรส ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 และ นายรัชพล ปาละกูล นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ ร่วมแถลงข่าวเปิดปฏิบัติการระดมกวาดล้างยาเสพติดทุกประเภท ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ณ บริเวณด้านหน้าอาคารที่ทำการ ตำรวจภูธรภาค 1


พล.ต.ท.อำพล ผบช.ภ.1  กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับยาเสพติดชนิดใหม่ “ยาเคนมผง” และ “ยาเคทะเลทราย ” ซึ่งอยู่ในกระแสความสนใจของประชาชน และ  มีผู้เสียชีวิตจากการเสพ ยาเคนมผง  เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ  ตำรวจภูธรภาค 1 จึงได้สั่งการให้หน่วยในสังกัด บูรณาการกำลังร่วมกับ สำนักงาน ปปส.ภาค 1 ทำการระดมกวาดล้างยาเสพติด  โดยเน้นให้มี  การสืบสวนขยายผลทุกราย เพื่อนำไปสู่การยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ในห้วงระหว่าง วันที่ 13-18 มกราคม 2564  ซึ่งมีผลการปฏิบัติ ดังนี้ 

1.   ผลการจับกุมทั้งสิ้น 563 ราย ผู้ต้องหา 592 คน

1.1 ผลิตจำนวน 25 ราย 44 คน

1.2 จำหน่ายจำนวน 19 ราย 21 คน

1.3 ครอบครองเพื่อจำหน่าย 165 ราย 174 คน

1.4 ครอบครอง 218 ราย 217 คน

1.5 เสพ 136 ราย 136 คน

1.6 หมายจับยาเสพติดจำนวน  9 หมาย

2. ของกลางยาเสพติด

2.1 ยาบ้า จำนวน 220,808 เม็ด  

2.2 ยาไอซ์ จำนวน 2,175.34 กรัม

2.3 กัญชา จำนวน   977   กิโลกรัม 1,348.90   กรัม  

2.4 พืชกระท่อม  จำนวน 1,800  ใบ 532.70 กรัม  น้ำกระท่อม 442.35 ลิตร  

2.5 เคตามีน จำนวน   9.41   กรัม

2.6 ยาอี จำนวน   3   เม็ด

3. ของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน

3.1 อาวุธปืน จำนวน  5   กระบอก

4. ตรวจยึดทรัพย์  :  รวมมูลค่าทรัพย์สิน   8,644,825   บาท

4.1 เงินสด/ในบัญชี  200,175 บาท

4.2 รถยนต์ 14 คัน  มูลค่า 6,784,700 บาท  

4.3 รถจักรยานยนต์ 21 คัน  มูลค่า 1,310,690 บาท

4.4 ทองรูปพรรณ  มูลค่า   286,800 บาท  

4.5 โทรศัพท์  10  เครื่อง  มูลค่า     62,460   บาท                                                                         

ผบช.ภ.1 กล่าวอีกว่า สำหรับการจับกุมยาเสพติดประเภท “เคนมผง” ในพื้นที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี นั้น เป็นการขยายผลการจับกุมผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่สายไหม ขยายผลไปถึงขบวนการที่อยู่เบื้องหลัง ในเบื้องต้นมีประมาณ 1-2 กลุ่ม ที่เฝ้าจับตาอยู่ แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงไปถึง “กลุ่มมิคาโดะ” ที่เป็นผู้ค้าในกรุงเทพฯ


ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้เฝ้าระวังเรื่องยาเคนมผงนั้น ได้สั่งการให้เฝ้าระวังทุกจังหวัด ไม่เฉพาะจังหวัดปทุมธานี และนนทบุรีเท่านั้น ซึ่งผู้ค้ายาหรือวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่ยอมรับว่าไม่รู้จักยาตัวนี้มาก่อน จึงตั้งข้อสังเกตว่า เคนมผง น่าจะเป็นยาเสพติดที่ใช้ในกลุ่มผู้มีฐานะ เพราะมักพบว่านำไปใช้ตามงานสังสรรค์โดยอ้างว่าเพื่อความสนุก


และ พล.ต.ท.อำพล ยังกล่าวถึง กรณีจับกุมวัยรุ่นชาย 2 คน แล้วตรวจพบ วัตถุระเบิดทำเองแบบแรงดันต่ำ แต่ไม่มีสะเก็ดระเบิดและปลอกแขนการ์ดอาชีวะใต้เบาะรถนั้น เบื้องต้นทราบว่าทั้งคู่จะไปรวมกลุ่มกันในพื้นที่ สภ.บางแก้ว ก่อนขับรถเข้าพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ แล้วพบด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจ เนื่องจากทั้งสองขี่จักรยานยนต์ไม่มีป้ายทะเบียน จึงจับกุมและนำไปตรวจสอบ เบื้องต้นกองพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจพิสูจน์ว่าเป็นระเบิดชนิดเดียวกันที่เกิดระเบิดขึ้นในพื้นที่สามย่านเมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมาหรือไม่


ทางด้าน นายรัชพล ปาละกูล นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ เปิดเผยว่า “เคนมผง” จากการนำไปตรวจสอบสารเคมีพบว่ามีความบริสุทธิ์ของ “ไดอะซีแพม” 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปกติไดอะซีแพม 1 เม็ดจะมีปริมาณ 5 มิลลิกรัม แต่ตัวยาที่ตรวจพบเทียบได้เท่ากับการกินยาไดอะซีแพม 50-100 เม็ด จึงทำให้ผู้เสพมีอาการง่วงนอนมากเป็นพิเศษ


ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนหรือได้รับความเสียหายจากการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือพบเบาะแสในการกระทำผิด พบเห็นบุคคลต้องสงสัยหรือบุคคลที่หลบหนีหมายจับ ขอให้แจ้งข้อมูลมายัง ตำรวจภูธรภาค 1 ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0-2936-2725, 0-2537-8578-97     เว็บไซด์ www.p1.Police.go.th และ Facebook ตำรวจภูธรภาค 1 https://th-th.facebook.com/RTP.p1  และสายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. โทร 1386

#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย(สภท.56 ปี)

#หนังสือพิมพ์ประชาไทออนไลน์

#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน

#T.Newsman007Online

#ข่าวเป็นข่าวออนไลน์//เอกชัยไ/รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บุรีรัมย์ – กกล.สุรนารี โดย ผบ.ฉก.ทพ.26 เดินเท้าลงพื้นที่มอบแสงสว่างแห่งความหวังให้ผู้ยากไร้ ตาม “โครงการสานสายใยรักพราน 26” ในพื้นที่ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สื่อลงพื้นที่ข่าวรายงานว่า                                พันเอก เกียรติศัก...