วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ป.ป.ส. รณรงค์ป้องกันยาเสพติดในผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ ภายใต้คำขวัญ “เดินทางปลอดภัย ไร้สารเสพติด ป้องกันโควิด สวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ” เพื่อมอบเป็นของขวัญแก่ประชาชน

















เมื่อวันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม 2563 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) บูรณาการร่วมกับ บริษัทขนส่ง จำกัด ลงพื้นที่ตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ และวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในการเดินทางจากการใช้ยาเสพติดและแอลกอฮอล์ พร้อมรณรงค์สร้างการรับรู้การป้องกันยาเสพติดให้กับประชาชนและผู้ขับขี่รถสาธารณะ ประจำปี 2564 ภายใต้คำขวัญ “เดินทางปลอดภัย ไร้สารเสพติด ป้องกันโควิด สวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ” ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) 


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่เดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงสั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดูแลพี่น้องประชาชน โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ดำเนินการขับเคลื่อนมาตรการป้องกัน การใช้ยาเสพติดในกลุ่มผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2564 ผ่านการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคี สร้างการรับรู้และความเข้าใจทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยในส่วนกลางมอบหมายให้ สำนักงาน ปปส.กทม. ลงพื้นที่รณรงค์ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดจากการเสพยาเสพติดและแอลกอฮอล์ รวมทั้งแจกสื่อรณรงค์ให้กับประชาชนที่อยู่ในบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) ได้แก่ สติ๊กเกอร์ ยาดม หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และแผ่นซีดี เรื่อง “เดินทางอย่างไร ให้ปลอดภัยจากยาเสพติด” และสร้างการรับรู้ในการป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ายาเสพติด เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับประชาชน


สำหรับในส่วนของภูมิภาค สำนักงาน ปปส. ภาค 1-9 ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ณ ด่านจุดตรวจจุดสกัด และรณรงค์ป้องกันสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ณ บริเวณขนส่งผู้โดยสารประจำจังหวัด ร่วมรณรงค์แจกสื่อสร้างการรับรู้ป้องกันตนเองจากยาเสพติด


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การลงพื้นที่รณรงค์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ครั้งนี้ ถือเป็นการมอบของขวัญ  ปีใหม่ให้กับประชาชนตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งในการสอดส่องดูแลไม่ให้มีผู้เสพ  ยาเสพติดปฏิบัติหน้าที่ขับรถอย่างเด็ดขาด โดยหากพบว่าผู้ประกอบการขนส่งรายใดฝ่าฝืนหรือยินยอมให้ผู้ขับรถปฏิบัติหน้าที่ในขณะที่มีอาการเมาสุรา หรือเสพยาเสพติด หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ปฏิบัติหน้าที่ขับรถ หากเสพยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท จะต้องรับโทษที่สูงขึ้นกว่าที่กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทกำหนดไว้สำหรับความผิดฐานเสพ อีก 1 ใน 3 นอกจากนี้ จะถูกศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่อีกด้วย 


นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวในตอนท้ายว่า “ทั้งนี้ ยังได้กำชับและเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้มีการป้องกันตนเองจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งทุกคนจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักสาธารณสุข และมาตรการของศูนย์บริการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการเว้นระยะห่างระหว่างกัน การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ หรือการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าไปร่วมงาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19  และขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันป้องกันการใช้ยาเสพติดในผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะอย่างเต็มที่, เตือน! ไม่รับฝากของจากบุคคลแปลกหน้า เพราะอาจกลายเป็นยาเสพติด และหากพบเบาะแสยาเสพติด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง

#ข่าวเป็นข่าวออนไลน์//เอกขัย//รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บุรีรัมย์ – กกล.สุรนารี โดย ผบ.ฉก.ทพ.26 เดินเท้าลงพื้นที่มอบแสงสว่างแห่งความหวังให้ผู้ยากไร้ ตาม “โครงการสานสายใยรักพราน 26” ในพื้นที่ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สื่อลงพื้นที่ข่าวรายงานว่า                                พันเอก เกียรติศัก...