วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563

สรุปผลงานกระทรวงเกษตรปี 2563 “อลงกรณ์” เผย 15 โครงการเรือธงดันกระทรวงเกษตรฯขึ้นแท่นเบอร์หนึ่ง



นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนวันนี้ ( 31 ธันวาคม 2563 )ถึงผลงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปี 2563 ว่า ปี2563 เป็นปีที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรุนแรงจากผลกระทบของโควิด19 ทำให้การเติบโตขยายตัวของจีดีพี.และการส่งออกติดลบ คนว่างงานสถานประกอบการหยุดกิจการจำนวนมาก เป็นความยากลำบากที่รุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตามกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ทุ่มเททำงานหนักเพื่อรับมือกับวิกฤติการณ์ครั้งนี้และภายใต้วิสัยทัศน์และนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการอีก 3 ท่าน คือ รมช.ประภัตร โพธสุธน, รมช.ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมช.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ สามารถขับเคลื่อนภารกิจตามนโยบายของรัฐบาล และนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ.ได้ผลเป็นที่น่าพอใจทั้งการแก้ไขปัญหาและการเดินหน้าด้วยนโยบายใหม่ๆ โดยเฉพาะ15โครงการเรือธง(flagship projects)ซึ่งจัดเป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในเชิงนโยบายและการวางรากฐานใหม่ให้ภาคเกษตรของไทยในยุคโควิด19 ได้แก่

          1. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจหลักได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และปาล์มน้ำมันกว่า7ล้านรายเสริมสร้างเศรษฐกิจเกษตรเป็นฐานหลักของอนาคตประเทศ

          2. การป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาสุกร (ASF)สำเร็จเป็นที่ยกย่องไปทั่วโลกสร้างรายได้และโอกาสภาคปศุสัตว์และอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร

          3. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

เพื่อกระจายปัจจัยการผลิตคือที่ดินให้กับเกษตรกรลดความเหลื่อมล้ำ

          4. โครงการสหกรณ์ซูเปอร์มาร์เก็ต170แห่งสร้างช่องทางใหม่ของสินค้าสหกรณ์เป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค

          5. การจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center : AIC) 77 จังหวัด เพื่อลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆของไทย

          6. การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ (National Agriculture Big Data Center : NABC)เป็นฐานข้อมูลสำหรับเกษตรกรผู้ประกอบการและภาครัฐในการผลิตจนถึงการกำหนดนโยบาย

          7. การเปิดด่านตงชิง และด่านผิงเสียง เพิ่มโอกาสการส่งออกไปจีนเพิ่มจากในอดีตที่มีเพียง2ด่าน

          8. การพัฒนาข้าวไทยกลับมาครองแชมป์โลก

          9. การบริหารจัดการน้ำรับมือภัยแล้ง และแก้ปัญหาน้ำท่วมด้วยเทคโนโลยีชลประทานอัจฉริยะ

          10. โครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ตามนโยบายเกษตรกรรมยั่งยืน (Sustainable agriculture)เป็นการวางรากฐานใหม่ให้กับเกษตรกรรายย่อยที่ประสบปัญหาหนี้สินและความยากจนครอบคลุมทุกจังหวัด

          11. โครงการตลาดออนไลน์เพื่อเกษตรกร สร้างช่องทางตลาดอีคอมเมิร์ซกับแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งภายในและต่างประเทศภายใต้โมเดล”เกษตร-พาณิชย์ทันสมัย”ครั้งใหญ่ที่สุด

          12. การบริหารจัดการผลไม้เชิงกลยุทธ์โดยฟรุ้ทบอร์ด (Fruit Board)สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกไปต่างประเทศแม้ประสบปัญหาผลกระทบจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19

          13. การบริหารจัดการประมงทั้งระบบตั้งแต่ประมงเพาะเลี้ยง ประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ ประมงนอกน่านน้ำ และการรักษามาตรฐานIUU

          14. การเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับ

ผลกระทบจากโควิด-19เกือบ10ล้านราย

          15. โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเกษตรกร สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการเพื่อสนับสนุนส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการแปรรูปสร้างมูลค่า

โครงการเรือธงเหล่านี้ส่งผลประโยชน์โดยตรงถึงเกษตรกรและประเทศชาติ เป็นโครงการคานงัดที่จะนำไปสู่การปฏิรูปภาคเกษตรทั้งระบบและส่งผลให้ประชาชนพึงพอใจต่อผลงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นอันดับหนึ่งในปี2563ซึ่งผู้บริหารและข้าราชการพนักงานลูกจ้างของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คือผู้ที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความผลงานดังกล่าวรวมทั้งทุกภาคีภาคส่วนที่ได้ร่วมทำงานเพื่อประชาชนตชอด365วันที่ผ่านมา

# สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

#ข่าวเป็นข่าวออนไลน์//เอกขัย//รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บุรีรัมย์ – กกล.สุรนารี โดย ผบ.ฉก.ทพ.26 เดินเท้าลงพื้นที่มอบแสงสว่างแห่งความหวังให้ผู้ยากไร้ ตาม “โครงการสานสายใยรักพราน 26” ในพื้นที่ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สื่อลงพื้นที่ข่าวรายงานว่า                                พันเอก เกียรติศัก...