(1).ดีใจและขอบคุณ ที่คณะรัฐมนตรี ไปประชุม ครม.สัญจร ที่ภูเก็ตและสุราษฎร์ธานี และได้มีมาตรการช่วยเหลือภาคท่องเที่ยว เพิ่มเติมด้วย
แต่ก่อนอื่น ชวนไปดู ภาพ แสดงข้อมูลอัตราการเข้าพัก ในจังหวัดต่างๆ ล่าสุด เดือนกันยายนที่ผ่านมา
ภาพรวมทั้งประเทศ จะเห็น 10 อันดับจังหวัด ที่มีการเข้าพักสูงสุด ที่มากกว่า 40% คือ 1.นครศรีฯ(น่าจะกระแส ไอ้ไข่) 2. เพชรบุรี 3. กาญจนบุรี 4. อุดรธานี 5.นครนายก 6. พิษณุโลก 7. นครราชสีมา 8.น่าน 9. สมุทรสงคราม 10. ลำปาง
แต่ที่น่าห่วง คือ หลายจังหวัดในภาคใต้ มีอัตราเข้าพักไม่ถึง 40% และบางจังหวัด ไม่ถึง 20%ด้วยซ้ำไป (ตามภาพ)
ผู้ประกอบการรายหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า
1.ช่วงนี้ นทท.ต่างชาติยังมาเที่ยวไม่มาก เพราะสถานการณ์โลกยังน่าห่วง แม้อยากจะมามากๆ หรือเชิญชวนสุดๆแล้วก็ตาม
2. โรงแรมระดับ 5 ดาวของไทย เช่น ดุสิตธานี ศรีพันวา กลับแน่นและราคายังสูงอยู่ได้ เพราะมีฐานลูกค้าไทยเป็นส่วนใหญ่ และได้อานิสงส์จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แต่อีกหลายแห่งว่าง โล่ง ขาดทุน เตรียมขายกิจการด้วย โดยเฉพาะโรงแรมที่รับ นทท.ต่างชาติเป็นหลัก
3. หลายโรงแรมใช้กลยุทธ์ ลดราคาที่พัก ดึงคนมา เพื่อให้มีรายได้จากอาหาร เครื่องดื่ม
4. ราคาอาหาร ค่ารถ ค่าเดินทาง ยังไม่ค่อยลดเท่าไหร่ ค่าตั๋วเครื่องบินยังแพงอยู่
5.แรงงานภาคท่องเที่ยวตกงาน และทยอยออกจากภูเก็ต เกือบ 50%
ทั้งนี้ส่วนตัว ผมเห็นด้วยกับมาตรการหลายเรื่อง ที่ภาครัฐ เตรียมเร่งออกมาช่วยเหลือ ได้แก่
1. ก.แรงงาน ของบ 1,500 ล้านบาท จ้างคนตกงานใน 6 จังหวัดชายฝั่งทะเล ได้แก่ ภูเก็ต ตรัง สตูล พังงา กระบี่ ระนอง ค่าจ้างวันละ 330-340 บ.เป็นเวลา 10 เดือน จำนวน 18,000 คน กระจายจำนวนตามพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยว
2. ก.คมนาคม จะใช้งบ ปี64 พัฒนาภูเก็ตให้เป็น "มารีน่า ฮับ" เพื่อขยายการรับเรือยอร์ช เรือสำราญกีฬา การบริการซ่อมทำเรือ บ้านพักหรู รวมถึงจะขุดลอกร่องน้ำจากท่าเรือสู่ทะเล การทำเครื่องหมายช่วยในการเดินเรือ ให้ทุกอย่างได้มาตรฐานนานาชาติต่อไป
ซึ่งภูเก็ต มีท่าเรือหลายแห่ง ที่มีที่จอดเรือมากถึง 300 ซองจอด คิดรายได้จากค่าเช่าที่จอด ค่าจ้างล้างทำความสะอาดเรือ ค่าซ่อมบำรุงเรือ ค่าตกแต่งเรือ ค่าซักผ้า ฯลฯ
เรื่องต่างๆนี้ ก็สามารถจ้างงาน สร้างรายได้ ให้กับคนงาน ในภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงได้มากเลยครับ
ช่วยกันเป็นกำลังใจกัน และสนับสนุนมาตรการต่างๆ กันต่อไปนะครับ
https://www.facebook.com/560632217314752/posts/3768013279909947/?sfnsn=mo
(2).ผมได้ร่วมประชุมกับ คณะอนุ กมธ.กีฬา ของวุฒิสภา ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
เพื่อเตรียมการจัด กิจกรรม "Sport Clinic" ให้น้องๆเยาวชน พัฒนาและเพิ่มทักษะฯ โดยเริ่มที่กีฬาฟุตบอล ฟุตซอล มวยไทย+มวยสากล และวอลเลย์บอล
โดยเชิญทั้ง อดีตนักกีฬาเหรียญโอลิมปิก นักกีฬาทีมชาติไทย โค้ชระดับสโมสรชั้นนำของประเทศ โดยจะเติมหลัก"วิทยาศาสตร์การกีฬา" เสริมเข้าไปด้วย
และจะเติมอีกหนึ่งแรงบวกด้วยการบรรยายในหัวข้อ "การสร้างแรงบันดาลใจ ในการเล่นกีฬา" (Power Of Change)
ตั้งเป้าที่น้องๆเยาวชน ในจังหวัดใกล้เคียงของนครปฐมก่อน อาจเป็น กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ราชบุรีเป็นต้น
และยังได้พูดคุยกับ"จพล." ของ อ.กำแพงแสน สนง.ทกจ.และ ผู้บริหารชมรมฟุตบอล จ.นครปฐม ในเรื่องการจะจัดฟุตบอลหญิง อายุ 12-18 ปี ชิงแชมป์ของจ.นครปฐม โดยมีทีมจากอำเภอต่างๆ ร่วมด้วยครับ
https://www.facebook.com/560632217314752/posts/3770497872994821/?sfnsn=mo
น.ต.วรวิทย์ เตชะสุภากูร ร.น. อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี ก.ท่องเที่ยวและกีฬา/ทปษ.ETDA ก.ดิจิทัลฯ/อนุ กมธ.กีฬา/ทปษ.อนุ กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติฯ วุฒิสภา
#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท. 55 ปี)
#หนังสือพิมพ์ประชาไทออนไลน์
#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน
#T.Newsman007Online
#เอกชัย//ข่าวเป็นข่าว//รายงาน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น