วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2563

สมศักดิ์-ป.ป.ส. เปิดการอบรมหลักสูตร “การเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด” หวังใช้เทคโนโลยีใหม่สืบเส้นทางการเงิน ทลายเครือข่าย ย้ำ รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหา เชื่อ สาวถึงผู้บงการทำปัญหาลดลงในอีกไม่นาน











วันที่ 14 ธันวาคม 2563 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมหลักสูตร เพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์คดียาเสพติดให้แก่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานในพื้นที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกัน

และปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) พล.ต.อ. มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอุทัย สินมา อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด เจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมศุลกากร 

และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. รวมกว่า 125 คน เข้าร่วม ณ โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กรุงเทพมหานคร

นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานว่า “ยาเสพติดเป็นปัญหาที่รัฐบาลแก้ไขมาอย่างยาวนาน และโลกปัจจุบันเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตและมีนวัตกรรมใหม่ๆ มากขึ้น ทำให้อาชญากรรมมีรูปแบบ

ทางดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยมากขึ้น รวมทั้งการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีการซื้อขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ ซึ่งยาเสพติดเป็นปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการยึดทรัพย์ทลายเครือข่ายให้หมดไป ซึ่งวันนี้รูปแบบการป้องกันและปราบปรามเราได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากเดิมเราตั้งด่านจับกุม เวลามีการเคลื่อนย้ายยาเสพติด เราก็จับดำเนินคดี รูปแบบของคดีต่างๆ ในอดีต เราจับคนขนได้แต่เราไม่ได้ขยายผลถึงตัวผู้บงการ ในปีหนึ่งๆ เรายึดของกลางและเงินสดได้ประมาณไม่เกิน 600 ล้านบาท ถ้าเราเป็นบริษัทเอกชนต้องบอกว่าเราล้มละลายไปแล้ว หากดูจากงบบูรณาการปราบปรามยาเสพติดประมาณ 6,000 ล้านบาท แต่เรายึดทรัพย์ได้แค่ 600 ล้านบาท เราเคยจับยาบ้าได้มากสุดประมาณ 600 ล้านเม็ด ยาไอซ์ประมาณ 17,000 กิโลกรัม แต่ยาเสพติดที่ออกมาจากสามเหลี่ยมทองคำมีมากกว่านั้นหลายเท่า เราจึงต้องเน้นการตัดวงจรและยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด” 

"การตัดวงจร ยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด เป็นกระบวนการที่ยุ่งยากพอสมควร เพราะเกี่ยวกับกฎหมายหลายฉบับ ทั้งกฎหมายของ ป.ป.ส. ปปง. และภาษี ผมในฐานะ รมว.ยุติธรรม ได้เสนอแก้กฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นกรรมาธิการ หากเราแก้ได้สำเร็จ การทำสำนวนหรือคดีต่างๆ จะทำให้เป็นการบูรณาการแบบวันสต็อปเซอร์วิส มากขึ้น การตัดวงจรยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดตรงนี้ ผมมีความตั้งใจอย่างยิ่ง ผมขอให้พวกเราตั้งใจและช่วยกัน ผมมั่นใจว่าการต่อสู้กับการตัดวงจรยาเสพติดนั้นจะถูกจัดการโดยพวกเรา ซึ่งการอบรมแบบนี้คงต้องขยายไปให้ทั่วทุกภูมิภาค และผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐจะไม่มีใครพลาดพลั้ง เพราะที่ผ่านมาการปราบปรามยาเสพติดจะเกิดการต่อสู้ แต่รูปแบบใหม่เราจะเน้นหลักไปที่การสืบสวนเพื่อยึดทรัพย์แทน ผมมั่นใจว่าการตัดวงจร ยึดทรัพย์เครือข่ายจะช่วยทำให้ปัญหายาเสพติดลดลงอย่างแน่นอน" นายสมศักดิ์ กล่าว

ด้านนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน

และปราบปรามการฟอกเงิน จัดอบรมหลักสูตรเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้ทราบถึงปัญหาอุปสรรคในการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด

ที่เกิดขึ้น เพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางในการแก้ไขปรับปรุงการสืบสวนขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติดให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งหลักสูตรการอบรมครอบคลุมตั้งแต่การสืบสวนคดียาเสพติดโดยใช้เทคโนโลยีเครื่องมือพิเศษ การขยายผลทางการเงิน การวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการพิจารณาหลักฐานในชั้นพนักงานอัยการ 

เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังกล่าวอีกว่า สำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมขับเคลื่อนและบูรณาการระหว่างหน่วยงาน และระหว่างเจ้าหน้าที่ เพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น ไม่เพียงแต่ทรัพย์สินที่ได้จากการค้ายาเสพติดจะต้องถูกยึดอายัด แต่ยังรวมไปถึงทรัพย์สินอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ โดยหากพบผู้ที่มีพฤติการณ์ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติด ได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. 

โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง @Wanvisa 


#/สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.56 ปี)

#หนังสือพิมพ์ประชาไทออนไลน์

#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน

#T.Newsman007Online

#เอกชัย//ข่าวเป็นข่าว//รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บุรีรัมย์ – กกล.สุรนารี โดย ผบ.ฉก.ทพ.26 เดินเท้าลงพื้นที่มอบแสงสว่างแห่งความหวังให้ผู้ยากไร้ ตาม “โครงการสานสายใยรักพราน 26” ในพื้นที่ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สื่อลงพื้นที่ข่าวรายงานว่า                                พันเอก เกียรติศัก...