วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2564

บุรีรัมย์ – กกล.สุรนารี โดย ผบ.ฉก.ทพ.26 เดินเท้าลงพื้นที่มอบแสงสว่างแห่งความหวังให้ผู้ยากไร้ ตาม “โครงการสานสายใยรักพราน 26” ในพื้นที่ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์










เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สื่อลงพื้นที่ข่าวรายงานว่า                                พันเอก เกียรติศักดิ์  จารุวัตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 เดินเท้าลงพื้นที่มอบแสงสว่างแห่งความหวังให้ผู้ยากไร้ เพื่อสมทบทุนร่วมสร้างบ้านให้ผู้ยากไร้ตาม “โครงการสานสายใยรักพราน 26” ให้กับ นายแห้ง   ชุ่มบันดิษฐ์  บ้านเลขที่ 35 หมู่ที่ 6 บ้านโรงเลื่อย ตำบลละหานทราย อำเภละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์   โดยสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 10,000 บาท   พร้อมทั้งได้มอบเสื้อกันหนาวและนมกล่องให้กับครอบครัวด้วย หลังจากนี้หน่วยจะสนับสนุนชุดช่างเข้าดำเนินการก่อสร้าง และจะได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมถึงประชาชนในพื้นที่  เพื่อระดมทุนและวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างให้สำเร็จต่อไป 

“โครงการสานสายใยรักพราน 26” หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 ในห้วงที่ผ่านได้ร่วมกับอำเภอละหานทราย บูรณาการร่วมกับภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณทุกภาคส่วน ดำเนินการสร้างบ้านให้กับผู้ยากไร้ จากการสำรวจความต้องการของประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือในการสร้างบ้านและซ่อมแชมบ้านโดยผ่านการคัดเลือกจากอำเภอละหานทรายในห้วงปีงบประมาณ 2563ได้ดำเนินการสร้างบ้านแล้วเสร็จ จำนวน 2 หลัง ถือเป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาสซึ่งถือว่าเป็นครอบครัวที่หน่วยงานต้องเร่งให้การช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวผู้ยากไร้ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26  จึงได้ทำการจัดชุดช่างเข้าดำเนินการช่วยเหลือ แสดงออกถึงความรัก สามัคคีของคนในชุมชนและเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ของการยื่นมือเข้าช่วยเหลือของประชาชนในพื้นที่อำเภอละหานทราย และเพื่อเป็นการรวมพลังต้นแบบในการช่วยเหลือผู้ยากไร้ให้เป็นตัวอย่างให้กับสังคมตลอดจนประเทศชาติต่อไปในอนาคต

//////////////////////////////////

ภาพ/ข่าว : ไทบ้าน  นิวส์ (พรพิพัฒน์  เพ็ชรสังหาร)

#ข่าวเป็นข่าวออนไลน์//เอกชัย//รายงาน

นายก สภท. ร่วมไว้อาลัย สมหมาย รอดโพธิ์ทอง อดีตอุปนายกสมาคมฯ




















วันพุธที่ 27 มกราคม 2564 เวลา 17.00 น. นายอนันต์ นิลมานนท์ นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.56ปี) พร้อมด้วยคณะกรรมการและที่ปรึกษาสมาคมฯ ประกอบด้วย นายภากร ยังแจ่ม เลขาธิการสมาคมฯ, นายธวัชชัย เฟื่องอนันต์ กรรมการสมาคมฯ, ผศ.ดำรงค์ พรสุภัทร, ทนายสุรีย์กร พรสุภัทร, นางอุมาลี ชุ่มเชื้อ, นายจรุงพันธ์ ก่อเกียรติตระกูล ที่ปรึกษาสมาคมฯ และนายกฤษติน นิลมานนท์ เจ้าหน้าที่สมาคมฯ ร่วมไว้อาลัยในพิธีฌาปนกิจศพ นายสมหมาย รอดโพธิ์ทอง "อดีตอุปนายกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย" ซึ่งเสียชีวิตด้วยอาการสงบ ในวัย 85 ปี 9 เดือน 20 วัน โดยได้รับเกียรติจาก นายสมนึก สอนเนย อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานทอดผ้ามหาบังสกุลและจุดเพลิงศพ โดย มีญาติสนิทมิตรสหายร่วมไว้อาลัยกับ “ครอบครัวรอดโพธิ์ทอง” จำนวนมาก ซึ่ง นายอนันต์ นายกสมาคม สภท.

ได้มอบเงิน จำนวน 31,500 บาท ให้กับ นางบังอร รอดโพธิ์ทอง (ภริยานายสมหมาย) ในนามสมาคม ด้วย ณ วัดพืชอุดม ต.พืชอุดม อ.ลำลูกกา(คลอง13) จ.ปทุมธานี

#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย(สภท.56 ปี)

#หนังสือพิมพ์ประชาไทออนไลน์

#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน

#T.Newsman007Online

#ข่าวเป็นข่าวออนไลน์//เอกชัย//รายงาน

กต.ตร.สภ.บางศรีเมือง ลงพื้นที่มอบเงินและสิ่งของเยียวยาผู้ประสบภัยเพลิงไหม้ในชุมชนท่าน้ำบางศรีเมือง นนทบุรี











เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ม.ค.64 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.วันชัย ชูจิตร ผกก.สภ.บางศรีเมือง นายวรภัทร สุนทรพลิน ประธานกต.ตร.สภ.บางศรีเมือง พร้อมคณะกรรมการ กต.ตร.สภ.บางศรีเมือง น.ส.วัชรี ไทยพิทักษ์กุล นายนรากร มหัธนันท์ นายสาธิน รุ่งอิทธิวงศ์ นายเจษฎา สวัสดิรักษา

นายสุกิจ ลับกิ่ม นายนิรุทร์ บุญเขตพิทักษ์ เดินทางลงพื้นที่บริเวณชุมชนท่าน้ำบางศรีเมือง ซอยบางศรีเมือง 59 ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อนำของเครื่องใช้ ผ้าห่ม  สิ่งของจำเป็นและเงินสด มามอบให้กับครอบครัวผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้  เพื่อนำไปใช้บรรเทาในชีวิตประจำวันต่อไป

นอกจากนี้ทาง คณะ กต.ตร.สภ.บางศรีเมือง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่ที่เพลิงไหม้ซึ่งเหลือแต่สภาพซากปรักหักพังเป็นตอตะโก  โดยยังพบว่าบริเวณโกดังเก็บลังและไม้เก่ายังมีเศษลังกระดาษที่ถูกไฟไหม้ไม่หมดหลงเหลืออยู่ 

นายวรภัทร สุนทรพลิน ประธาน กต.ตร.สภ.บางศรีเมือง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุอัคคีภัยในพื้นที่ชุมชนท่าน้ำบางศรีเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.บางศรีเมือง ทางคณะ กต.ตร.บางศรีเมือง จึงได้รวบรวมปัจจัยและสิ่งของที่จำเป็น นำมาช่วยเหลือใหักับผู้ประสบภัยเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในยามทุกข์ยาก นอกจากนี้ทางคณะ กต.ตร.ได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับครอบครัวและผู้ประสบภัยเพื่อนำไปใช้ซื้อสิ่งของที่จำเป็นแต่ยังขาดแคลนอยู่ต่อไป เนื่องจากหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ในชุมชนแห่งนี้แล้ว มีเนื่องจากมีหน่วยงาน องค์กร และภาคประชาชนต่าง ๆ ทยอยนำเสื้อผ้า ข้าวสาร น้ำดื่ม มาช่วยเหลือเป็นจำนวนมากแล้ว การมอบเงินช่วยเหลือน่าจะทำให้ผู้ประสบภัยสามารถนำเงินไปซื้อสิ่งของที่จำเป็นแต่ยังขาดแคลนได้สะดวกและตรงกับความต้องการมากกว่า

ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ : นนทบุรี

#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย(สภท.56 ปี)

#ข่าวเป็นข่าวออนไลน์//เอกชัย//รายงาน

“บิ๊กปั๊ด ผบ.ตร.” แถลงข่าวจับกุม "ขบวนการทุจริต โครงการเราเที่ยวกัน"















วันที่ 27 ม.ค. 2564 เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศสอส.ตร.), พล.ต.ท.นิทัศน์ ลิ้มศิริพันธ์ ผบช.ทท., พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, น.ส.สภัทร์พร ธรรมาภรณ์พิลาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และผู้แทนธนาคารกรุงไทย ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม "ขบวนการทุจริต โครงการเราเที่ยวกัน" ผู้ต้องหา 50 ราย 

สืบเนื่องจากพบพฤติกรรมผิดปกติในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน  จึงได้เข้าแจ้งความกับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ขอให้ตรวจสอบผู้ที่อาจจะกระทำผิดทุจริตในโครงการ โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน 

จากการสืบสวนร่วมกันของ บก.ป., ศปอส.ตร. และ บช.ทท. พบว่า มีผู้ประกอบธุรกิจที่กระทำการเข้าข่ายทุจริตหลายรูปแบบ เช่น เปิดให้มีการจองห้องพัก แต่ไม่มีการเข้าพักจริง, นําคูปองที่ได้รับหลังจากเช็คอินห้องพัก ไปสแกนใช้จ่ายกับร้านค้า แต่ไม่มีการซื้อสินค้าจริง, บางโรงแรมมีที่ตั้งจริง ลงทะเบียนถูกต้อง แต่ยังไม่เปิดให้บริการ กลับมีการเปิดให้จองห้องพัก  หรือมีการตั้งราคาจองห้องพักไว้แพงเกินจริง หวังกินส่วนต่างราคาส่วนลด 

      ที่ จ.ชัยภูมิ โดย ชุดปฏิบัติของ กก.3 บก.ป. นำโดย ว่าที่ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. นำกำลังเข้าค้นโรงแรมณัฐชญา รีสอร์ท และผู้ที่เกี่ยวข้องรวม 41 ราย 38 จุด โดยแบ่งเป็น เจ้าของโรงแรม 1 ราย เจ้าของร้านค้า 22 ราย คนกลางผู้รวบรวมสิทธิ์หรือสวมสิทธิ์ 14 ราย ผู้รับจ้างเปิดบัญชี 3 ราย ผู้รับจ้างบันทึกข้อมูลจองโรงแรม อีก 1 ราย ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่ 6 จังหวัด คือ จ.ชัยภูมิ, เลย, นครราชสีมา, ขอนแก่น, เพชรบูรณ์ และ ศรีสะเกษ

ผลการตรวจค้น จับกุมผู้ต้องหารวม 38 ราย พฤติการณ์ พบมีการลงทะเบียนเป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก มีห้องพักทั้งหมด 10 ห้อง นับตั้งแต่เดือน ก.ค.63 ถึงปัจจุบัน มีผู้ใช้สิทธิโครงการ จํานวน 9,263 ราย ยอดจองห้องพัก 92,028 ห้อง เฉลี่ย 1,000-3,000 ห้องต่อวัน คิดเป็นมูลค่ารวม 33,866,966 บาท  ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง และยังพบว่า กว่าร้อยละ 99 ของการจองห้องพัก 1 คน จะจอง 10 ห้อง เต็มทุกครั้ง และเวลาในการเช็คอินและ เช็คเอ๊าท์ ทับซ้อนไม่สัมพันธ์กัน นอกจากนี้ยังพบว่า คูปองที่ได้รับหลังจากเช็คอินห้องพัก ที่ใช้สำหรับสแกนจ่ายกับร้านค้าที่เข้าโครงการ มียอดการใช้จ่ายที่สูงกว่าปกติ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ ฯ กล่าวว่า ผู้ต้องหามีการกระทำเป็นขบวนการ โดยจะมีผู้ซื้อสิทธิ ตามหาซื้อสิทธิในโครงการ โดยให้ค่าตอบแทนรายละ 400-500 บาท เมื่อประชาชนขายสิทธิให้แล้ว ผู้ซื้อสิทธิจะให้เจ้าของสิทธิติดตั้งแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เสียก่อน หลังจากนั้นผู้ซื้อสิทธิจะนำเอาโทรศัพท์ของเจ้าของสิทธิไปดำเนินการจองโรงแรม และใช้คูปอง หรืออีกวิธีหนึ่งคือ จะนำเอาข้อมูลบัตรประชาชนและซิมการ์ดที่ลงทะเบียนแล้วไปขายต่อให้กับผู้สวมสิทธิ โดยจะขายให้ผู้สวมสิทธิในราคา 800-1,000 บาท เมื่อผู้สวมสิทธิได้รับสิทธิจากโครงการดังกล่าวแล้ว จะว่าจ้างให้ผู้ร่วมขบวนการ กรอกข้อมูลเพื่อจองห้องพักกับทางโรงแรม โดยจะมีกลุ่มที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารอีกกลุ่มหนึ่ง ที่คอยทำธุรกรรมทางการเงินแทนเจ้าของสิทธิ ซึ่งหลังจากที่ผู้สวมสิทธิทำการเช็คอินตามห้องพักที่ได้ทำการจองไว้ ทางผู้สวมสิทธิจะนำคูปองที่ได้รับหลังจากเช็คอินไปใช้จ่ายกับร้านค้าที่ตนเองควบคุม 

ส่วนที่ จ.ภูเก็ต ชุดปฏิบัติการของ กก.5 บก.ป. นำโดย พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าค้น โรงแรมธาราป่าตอง และเครือข่าย รวม 14 ราย ประกอบด้วย เจ้าของโรงแรม 3 ราย เจ้าของร้านค้า 2 ราย คนกลางผู้รวบรวมสิทธิ์หรือสวมสิทธิ์ 5 ราย ผู้รับจ้างบันทึกข้อมูล จองโรงแรม 4 ราย มีประชาชนร่วมทุจริตรวมกว่า 800 ราย (รอยืนยันตัวเลข) 

ผลการตรวจค้น จับกุมผู้ต้องหารวม 12 ราย พฤติกรรมการทุจริตแตกต่างกันออกไปจากกรณีข้างต้น โดยโรงแรมจะร่วมมือกับผู้จัดทัวร์ มีการเชิญชวนว่า หากประชาชนจองห้องพักเต็มสิทธิ จะให้เข้าร่วมกิจกรรมทัวร์  เป็นจำนวน 3 วัน 2 คืน โดยไม่มีการเข้าพักโรงแรมจริง นอกจากนี้ผู้จัดทัวร์กิจกรรมยังให้ประชาชนชำระค่าบริการในการทำกิจกรรม โดยให้สแกนคูปองที่ได้รับหลังจากการเช็คอินห้องพัก มาสเเกนใช้จ่ายกับร้านค้าที่ตนเองควบคุมไว้  

ผบ.ตร. ย้ำว่า สำหรับผู้ต้องหา จะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง, ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชนฯ และ ข้อหา ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ ทั้งนี้ พฤติกรรมการกระทำความผิดในคดีนี้มีลักษณะของการฉ้อโกงอันเป็นปกติธุระ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐาน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งก็จะได้ประสานไปยัง ปปง. ดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงินต่อไป ส่วนใครที่ยังคิดจะทำในลักษณะนี้อยู่ ก็ขอเตือนให้หยุดกระทำ เพราะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศ กรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโรงแรมอื่น ยังมีอยู่ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด จะแบ่งมอบหมาย ให้แต่ละภาคดำเนินการตามที่กระทรวงการคลังและ ททท. แจ้งมา @พ.ต.ท.หญิงจุฬนี/แก้ม 

#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย(สภท.56 ปี)

#หนังสือพิมพ์ประชาไทออนไลน์

#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน

#T.Newsman007Online

#ข่าวเป็นข่าวออนไลน์//เอกชัย//รายงาน


บุรีรัมย์ – กกล.สุรนารี โดย ผบ.ฉก.ทพ.26 เดินเท้าลงพื้นที่มอบแสงสว่างแห่งความหวังให้ผู้ยากไร้ ตาม “โครงการสานสายใยรักพราน 26” ในพื้นที่ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2564 ที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สื่อลงพื้นที่ข่าวรายงานว่า                                พันเอก เกียรติศัก...